Art

เลือกสีน้ำอย่างไรให้เหมาะกับงาน

Published

on

งานศิลป์ที่มีการรังสรรด้วยสีน้ำนั้นมีมากมายหลายเทคนิคและหลายผลงาน ซึ่งด้วยตัวสีน้ำก็จะมีความสวยงามที่เป็นเกลักษณ์แตกต่างกับสีแบบอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็มีศิลปินมือใหม่ที่ต้องการฝึกฝนสีน้ำกันอย่างมากมาย บทความนี้จึงอยากพาท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านไปพบกับ “การเลือกสีน้ำอย่างไรให้เหมาะกับงาน” กันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น เราไปชมกันเลยดีกว่าครับ

รู้จักกับสีน้ำ

สีน้ำ ก็คือ สีชนิดหนึ่งที่มีการใช้น้ำเป็นตัวทำละลายนั่นเอง โดยจะมีเนื้อสีผสมกับ gum arabic ที่เป็นตัวยึดเนื้อสีเข้าด้วยกัน สีน้ำจะให้เอฟเฟคที่ใส และโดยปกติจะไม่นิยมผสมสีขาว ต่างจากสีน้ำมันที่สามารถระบายทับหลายๆชั้นได้เรี่อยๆและมีการผสมสีขาวเพื่อให้สีอ่อนลง ซึ่งสีน้ำมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ เนื้อที่บดแล้วอย่างละเอียด ( Pigment ) ผสมกับกาวอารบิค ซึ่งสกัดมาจากต้นอะคาเซีย กาวชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ละลายน้ำง่ายและเกาะติดกระดาษแน่น ทั้งยังมีลักษณะโปร่งใสอีกด้วย

รู้จัก สีอะคลิลิก กันหรือมั้ย?

“สีอะครีลิค” เป็นสีที่มีส่วนผสมของสารพลาสติกโพลีเมอร์ (Polymer) จำพวก อะครีลิค (Acrylic) หรือ ไวนิล (Vinyl) เป็นชนิดของสีที่มีการผลิตขึ้นมาล่าสุด เวลาจะใช้ นำมาผสมกับน้ำ ใช้งานได้เหมือนกับสีน้ำ และสีน้ำมัน หลายคนจะเรียกสีอะคริลิคว่าเป็นสีอัจฉริยะ เพราะมันสามารถนำไปใช้กับงานหลากหลายประเภท ใช้ระบายได้กับหลายพื้นผิวไม่ว่าจะเป็น เฟรมผ้าใบ โลหะ ไม้ พลาสติก แก้ว ผ้า และกระดาษ เป็นต้น ซึ่งน่าทึ่งและน่าใช้งานเป็นอย่างมากครับ

หลักการเลือกสีน้ำที่ดี

เลือกสีน้ำที่สามารถพกพาได้สะดวกอย่าง  “สีน้ำตลับ” จุดเด่นของสีน้ำตลับคือ ความพกพาง่าย มีขนาดเล็ก สะดวกใช้งาน บางยี่ห้อจะแถมพู่กันขนาดเล็กสำหรับพกพามาด้วยลักษณะของมันจะมาแบบแห้ง ๆ เพื่อไม่ให้พกพาไปไหนแล้วเลอะ ต้องละลายน้ำก่อนใช้งาน ข้อเสียหลักของสีน้ำตลับคือ ตัวแพนสีมันเล็ก ไม่เหมาะกับการระบายพื้นที่ใหญ่ๆ

เลือกซื้อจากระดับเม็ดสี หรือที่เราอาจรู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า Pigment ระดับเม็ดสีนั้นจะทำให้ภาพของคุณมีสีสันสดสวยสมจริง เป็นระดับความมีคุณภาพของสีน้ำที่สดสวย ถึงแม้ทำละลายกับน้ำไปแล้วแต่ก็ยังคงความสดของสีไว้อย่างเต็มที่ ดังนั้น เวลาที่เลือกซื้อสีน้ำควรเลือกที่มีระดับ Pigment หรือค่าระดับเม็ดสีระดับสูง

เลือกซื้อจากระดับความทนต่อแสง ความทนต่อแสงนี้ก็จะทำให้ภาพที่สร้างสรรค์ขึ้นนั้นเก็บได้เป็นเวลานานขึ้น บางภาพที่เราเห็นว่าเมื่อเก็บไว้เป็นระยะเวลานานแล้วมีความซีดจางลง นั่นหมายถึงมีค่าความทนต่อแสงของสีน้อย ดังนั้น เราควรเลือกสีน้ำที่มีระดับค่าความทนต่อแสงมาก

เลือกซื้อจากระดับความใสของสี สีแต่ละยี่ห้อจะมีความขุ่นใสต่างกัน อันเนื่องมาจากมีค่าความโปร่งแสงแตกต่างกัน ซึ่งแบ่งเป็นสี่ระดับคือ สีโปร่งแสง สีกึ่งโปร่งแสง สีทึบแสง สีกึ่งทึบแสง โดยที่กล่องสีจะมีสัญลักษณ์บอกเกี่ยวกับระดับความใสของสีไว้เพื่อให้ผู้ซื้อเลือกซื้อได้ตามความต้องการใช้งาน

เลือกซื้อจากราคา เป็นที่แน่นอนว่าสีที่มี่คุณสมบัติดีและครบถ้วนทุกประการเพื่อให้งานที่ออกมางดงามที่สุด ก็ย่อมจะมีราคาที่แพงตามขึ้นไป ดังนั้น เราจึงต้องเลือกดูที่เหมาะสมกับเงินในกระเป๋าและความจำเป็น จึงจะเหมาะสมที่สุดครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “เลือกสีน้ำอย่างไรให้เหมาะกับงาน”ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านกันในบ้างต้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ คนกันนะครับ

Trending

Exit mobile version