Connect with us

Art

เลือกสีน้ำอย่างไรให้เหมาะกับงาน

Published

on

เลือกสีน้ำอย่างไรให้เหมาะกับงาน

งานศิลป์ที่มีการรังสรรด้วยสีน้ำนั้นมีมากมายหลายเทคนิคและหลายผลงาน ซึ่งด้วยตัวสีน้ำก็จะมีความสวยงามที่เป็นเกลักษณ์แตกต่างกับสีแบบอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็มีศิลปินมือใหม่ที่ต้องการฝึกฝนสีน้ำกันอย่างมากมาย บทความนี้จึงอยากพาท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านไปพบกับ “การเลือกสีน้ำอย่างไรให้เหมาะกับงาน” กันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น เราไปชมกันเลยดีกว่าครับ

รู้จักกับสีน้ำ

สีน้ำ ก็คือ สีชนิดหนึ่งที่มีการใช้น้ำเป็นตัวทำละลายนั่นเอง โดยจะมีเนื้อสีผสมกับ gum arabic ที่เป็นตัวยึดเนื้อสีเข้าด้วยกัน สีน้ำจะให้เอฟเฟคที่ใส และโดยปกติจะไม่นิยมผสมสีขาว ต่างจากสีน้ำมันที่สามารถระบายทับหลายๆชั้นได้เรี่อยๆและมีการผสมสีขาวเพื่อให้สีอ่อนลง ซึ่งสีน้ำมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ เนื้อที่บดแล้วอย่างละเอียด ( Pigment ) ผสมกับกาวอารบิค ซึ่งสกัดมาจากต้นอะคาเซีย กาวชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ละลายน้ำง่ายและเกาะติดกระดาษแน่น ทั้งยังมีลักษณะโปร่งใสอีกด้วย

รู้จัก สีอะคลิลิก กันหรือมั้ย?

“สีอะครีลิค” เป็นสีที่มีส่วนผสมของสารพลาสติกโพลีเมอร์ (Polymer) จำพวก อะครีลิค (Acrylic) หรือ ไวนิล (Vinyl) เป็นชนิดของสีที่มีการผลิตขึ้นมาล่าสุด เวลาจะใช้ นำมาผสมกับน้ำ ใช้งานได้เหมือนกับสีน้ำ และสีน้ำมัน หลายคนจะเรียกสีอะคริลิคว่าเป็นสีอัจฉริยะ เพราะมันสามารถนำไปใช้กับงานหลากหลายประเภท ใช้ระบายได้กับหลายพื้นผิวไม่ว่าจะเป็น เฟรมผ้าใบ โลหะ ไม้ พลาสติก แก้ว ผ้า และกระดาษ เป็นต้น ซึ่งน่าทึ่งและน่าใช้งานเป็นอย่างมากครับ

หลักการเลือกสีน้ำที่ดี

เลือกสีน้ำที่สามารถพกพาได้สะดวกอย่าง  “สีน้ำตลับ” จุดเด่นของสีน้ำตลับคือ ความพกพาง่าย มีขนาดเล็ก สะดวกใช้งาน บางยี่ห้อจะแถมพู่กันขนาดเล็กสำหรับพกพามาด้วยลักษณะของมันจะมาแบบแห้ง ๆ เพื่อไม่ให้พกพาไปไหนแล้วเลอะ ต้องละลายน้ำก่อนใช้งาน ข้อเสียหลักของสีน้ำตลับคือ ตัวแพนสีมันเล็ก ไม่เหมาะกับการระบายพื้นที่ใหญ่ๆ

เลือกซื้อจากระดับเม็ดสี หรือที่เราอาจรู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า Pigment ระดับเม็ดสีนั้นจะทำให้ภาพของคุณมีสีสันสดสวยสมจริง เป็นระดับความมีคุณภาพของสีน้ำที่สดสวย ถึงแม้ทำละลายกับน้ำไปแล้วแต่ก็ยังคงความสดของสีไว้อย่างเต็มที่ ดังนั้น เวลาที่เลือกซื้อสีน้ำควรเลือกที่มีระดับ Pigment หรือค่าระดับเม็ดสีระดับสูง

เลือกซื้อจากระดับความทนต่อแสง ความทนต่อแสงนี้ก็จะทำให้ภาพที่สร้างสรรค์ขึ้นนั้นเก็บได้เป็นเวลานานขึ้น บางภาพที่เราเห็นว่าเมื่อเก็บไว้เป็นระยะเวลานานแล้วมีความซีดจางลง นั่นหมายถึงมีค่าความทนต่อแสงของสีน้อย ดังนั้น เราควรเลือกสีน้ำที่มีระดับค่าความทนต่อแสงมาก

เลือกซื้อจากระดับความใสของสี สีแต่ละยี่ห้อจะมีความขุ่นใสต่างกัน อันเนื่องมาจากมีค่าความโปร่งแสงแตกต่างกัน ซึ่งแบ่งเป็นสี่ระดับคือ สีโปร่งแสง สีกึ่งโปร่งแสง สีทึบแสง สีกึ่งทึบแสง โดยที่กล่องสีจะมีสัญลักษณ์บอกเกี่ยวกับระดับความใสของสีไว้เพื่อให้ผู้ซื้อเลือกซื้อได้ตามความต้องการใช้งาน

เลือกซื้อจากราคา เป็นที่แน่นอนว่าสีที่มี่คุณสมบัติดีและครบถ้วนทุกประการเพื่อให้งานที่ออกมางดงามที่สุด ก็ย่อมจะมีราคาที่แพงตามขึ้นไป ดังนั้น เราจึงต้องเลือกดูที่เหมาะสมกับเงินในกระเป๋าและความจำเป็น จึงจะเหมาะสมที่สุดครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “เลือกสีน้ำอย่างไรให้เหมาะกับงาน”ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านกันในบ้างต้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ คนกันนะครับ

Continue Reading

Art

รู้จักกับ CRYBABY และเจ้าของผลงาน

Published

on

รู้จักกับ CRYBABY และเจ้าของผลงาน

ณ นาทีนี้คงไม่มีใครไม่เล่นกล่องสุ่มตุ๊กตาโมเดลที่มีมากมายหลาย Character ให้ท่านได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของกันอย่างแน่นอน ซึ่งแบรนด์ที่โด่งดังของวงการ Art toy ก็คงต้องยกให้ “Pop mart” แน่นอนเลยหล่ะครับ หลายๆ ท่านทราบกันมั้ยครับว่าหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดิบขายดีของ Pop mart เองก็มีผลงานจากศิลปินชาวไทยอยู่ด้วยเช่นกัน วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไป “รู้จักกับ CRYBABY และเจ้าของผลงาน” กันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ

อะไรคือ “Art toy”

Art Toy คือ ของเล่นที่ออกแบบโดยศิลปินผู้สร้างสรรค์ มักถูกผลิตออกมาในจำนวนจำกัด เป็นเหตุให้ Art toy บางชิ้นมีมูลค่าสูง โดยศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานนั้นมีอยู่ทั่วโลก Art Toy Pop Mart เองก็ร่วมงานกับตัวการ์ตูนที่เป็นลิขสิทธิ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัว Figure จนกลายเป็น Art Toy แบบ Exclusive Toy จากค่ายดังต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจาก Disney หรือจากการ์ตูนอนิเมะเรื่องดังต่างๆ เป็นต้น

ทำความรู้จักกับ “Pop mart”

POP MART เป็นแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์แนว Pop Culture ก่อตั้งโดย “หวาง หนิง” (Wang Ning) นักธุรกิจชาวจีน เมื่อปี 2010 เขากับเพื่อนๆ ได้ร่วมกันเช่าพื้นที่ให้ห้างสรรพสินค้าเพื่อเปิดเป็นร้านค้าขายของน่ารักกิ๋บเก๋สำหรับวัยรุ่นชาวจีน โดยได้รับแรงบัลดาลใจมาจาก Log-ON ร้านค้าแนวไลฟ์สไตล์บนเกาะฮ่องกง จุดพลิกผันสำคัญของ POP MART เกิดขึ้นในปี 2016 เมื่อแบรนด์ได้ร่วมงานกับเคนนี หว่อง (Kenny Wong) ศิลปินชาวฮ่องกง ผลิตคาแรกเตอร์สำคัญอย่าง “น้องมอลลี่” เด็กผู้หญิงปากคว่ำเหมือนปากเป็ด ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม กลายเป็นสินค้าที่มียอดขายถล่มทลาย และนำไปสู่การผลิตตุ๊กตาสุด Exclusive มากมายให้ได้สะสมกันครับ

เจ้าของผลงาน CRYBABY

คุณ ‘มอลลี่’ หรือ ‘มด – นิสา ศรีคำดี’ ศิลปินชาวไทยผู้ให้กำเนิด CRYBABY แก้มป่องกำลังร้องไห้ มีคราบน้ำตาก้อนใหญ่บนแก้มสองข้าง ที่เป็นเอกลักษณ์ เริ่มต้นจากการเป็นนักออกแบบโมเดลตัวละครครายเบบี้ 3 มิติ และอัปโหลดลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลของตนเองจนได้รับความนิยมจากเพื่อนๆ และผู้ติดตาม จนท้ายที่สุดเจ้าหนูร้องไห้ก็ได้เซ็นสัญญากับ Pop Mart ในการผลิตเป็นของสะสมรูปแบบกล่องสุ่ม

CRYBABY มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นคนชอบวาดคาแรกเตอร์ร้องไห้ เมื่อเธอเจอเรื่องต่างๆ หรือรู้สึกอ่อนไหวกับสิ่งไหน จะนำเหตุการณ์เหล่านั้นมาวาดคล้ายไดอารี่ ซึ่งเริ่มแรกรูปกระต่ายร้องไห้ กระทั่งพัฒนามาเป็น CRYBABY แบบปัจจุบัน

เธอถือว่า CRYBABY เป็นตัวแทนของคนที่ “ไม่กล้าร้องไห้หรือไม่กล้าแสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็น” เพราะต้องติดอยู่ในกรอบสังคมที่พยายามบอกให้คนเราเข้มแข็ง ทำให้ต้องแสดงออกว่าโอเคและรับมือได้ “

เหตุผลที่กล่องสุ่มได้รับความนิยม Run ทุกวงการ

เหตุผลที่ทำให้กล่องสุ่มได้รับความนิยมขึ้นมา ก็เป็นเพราะผู้บริโภคหลายคนชอบความสนุก ขณะที่บางคนชอบลุ้น ชอบเสี่ยงโชค มากไปกว่านั้นความคุ้มค่าของสินค้าที่ได้ ก็ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าแบบกล่องสุ่มแทนที่จะซื้อสินค้าที่ตัวเองอยากได้เลย จนต้องพยายามไขวคว้ามาให้ได้นั้นเองครับ

ทำไมราคา Art toy บางตัวถึงแพง

Art Toy มักมาในรูปกล่องสุ่ม และจะมีตัว Secret ให้สุ่มหา ดังนั้นหากต้องการเก็บให้ครบต้องใช้เงินพอสมควร หรือบางทีหากใช้เงินแก้ปัญหาด้วยการซื้อมาทั้งเซ็ท+ตัว Secret ไปเลย ราคาก็จะพุ่งไปอีกขั้น Art Toy จะผลิตออกมาในจำนวนจำกัด เพิ่มทั้งมูลค่าในฐานะของสะสมและในฐานะสินค้าเก็งกำไรนั้นเองครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “รู้จักกับ CRYBABY และเจ้าของผลงาน” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ คิดว่าน่าจะรู้จักกันมากขึ้นและคงต้องไปสอยน้องมาเก็บไว้กันสักตัวแล้วหล่ะครับ

Continue Reading

Art

3 ศิลปินไทยที่ดังไกลระดับโลก

Published

on

3 ศิลปินไทยที่ดังไกลระดับโลก

หากจะกล่าวถึงงานศิลป์ในระดับโลกนั้น มีมากมายหลายอย่างให้เราได้เสพศิลป์กันตามความชอบของแต่ละท่าน ซึ่งหลายๆ ท่านก็คงจะมีศิลปินในดวงใจกันอย่างแน่นอน วันนี้เราขอนำเสนอเกี่ยวกับ “3 ศิลปินไทยที่ดังไกลระดับโลก” ที่เชื่อกันว่าหลายๆ ท่านน่าจะเห็นผลงานของพวกเค้าผ่านตากันมาบ้าง แต่อาจไม่รู้ว่านี่คือ “ฝีมือของพวกเค้าชาวไทย”

Sundae Kids

ภาพวาดสีสันสบายตา เนื้อเรื่องอบอุ่นน่ารักแล้ว ก็คงต้องนึกถึงนักวาดภาพประกอบชาวไทยอย่าง Sundae Kids ผู้สร้างสรรค์ผลงานมากมายที่ครอบครองหัวใจของคนอ่านได้ไม่ยาก Sundae Kids เป็น Illustrator ชาวไทยที่เริ่มต้นจากการวาดภาพลงบนแฟนเพจของเฟซบุ๊ก จนได้รับความนิยมและกลายเป็นที่รู้จัก เปิดประตูสู่โอกาสในการทำงานกับแบรนด์ดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mavis, Baskin Robbins, Smileyhound, London Brown, CASETiFY และอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักวาดภาพที่น่าจะทำให้เห็นแล้วว่า งานศิลปะและงานภาพประกอบนั้นสามารถเป็นอะไรได้หลาย ๆ อย่าง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นภาพในแบบวิจิตรศิลป์เท่านั้น

วิศุทธิ์ พรนิมิตร

อีกหนึ่งศิลปิน Illustrator ของไทยที่ดังไกลระดับโลก ด้วยการสร้างสรรค์ตัวละครที่มีความน่ารักโดนใจคนมากมายอย่างวิศุทธิ์ พรนิมิตรกันเลย เขาคือเจ้าของการ์ตูนสุดน่ารักอย่างมะม่วง อีกทั้งยังได้สร้างสรรค์ผลงานมากมายจนได้จัดแสดงงานที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงมีผลงานการ์ตูนเรื่อง hesheit aqua ที่โด่งดังจนได้รับรางวัล Manga Encouragement Award ปี 2009 จาก Japan Media Art Festival อีกทั้งเขายังเป็นนักวาดภาพที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์ต่างประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพประกอบให้กับ Mentholatum ออกคอลเลกชันพิเศษกับแบรนด์กระเป๋า anello และอีกมากมาย

คุณมด นิสา ศรีคำดี นักออกแบบโมเดล 3 มิติ ผู้ให้กำเนิด Cry baby

เดิมทีเธอเริ่มต้นด้วยการออกแบบโมเดลตัวละครครายเบบี้ 3 มิติ และอัปโหลดลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลของตนเองจนได้รับความนิยมจากเพื่อนๆ และผู้ติดตาม จนท้ายที่สุดเจ้าหนูร้องไห้ก็ได้เซ็นสัญญากับ Pop Mart ในการผลิตเป็นของสะสมรูปแบบกล่องสุ่มซึ่งเหล่าบรรดา Collector ทั้งหลายต่างหลงใหลในตัวเจ้า Cry Baby กันอย่างมากมายครับ

รู้จักกับงานศิลปะ NFT (NFT Art)

NFT คือ งานศิลป์ที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบหนึ่ง เช่น งานศิลปะ รูปภาพ Meme เพลง ดนตรี คลิปวิดีโอ เกม หรือแม้แต่โพสต์บน Twitter ซึ่งมีความจำเพาะและแตกต่างกว่าเหรียญดิจิทัลแบบอื่น ๆ เพราะไม่สามารถทำซ้ำ แก้ไข ลบออกจากระบบหรือทดแทนกันได้ สามารถซื้อ-ขายบนระบบ Block Chain ที่มีการเก็บข้อมูลที่มาที่ไปของเหรียญสกุลนั้น ๆ และตรวจสอบรายชื่อได้ว่า ผลงานแต่ละชิ้นมีใครเป็นเจ้าของ

NFT Art จึงเป็นการซื้อ-ขายงานศิลปะรูปแบบใหม่ ที่มีความนิยมซื้อสะสม เมื่อนำไปแปลงเป็นโทเคน (Token) เข้าสู่ NFT จะถูกเรียกว่า “Crypto Arts” (งานศิลปะเข้ารหัส) กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าสามารถซื้อ-ขายได้

ขั้นตอนการลงขายงาน NFT Art สำหรับศิลปินหน้าใหม่

การขายงาน NFT Art สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เตรียมไฟล์ภาพงานศิลปะ เพื่อแปลงภาพเป็นไฟล์ดิจทัลที่เป็นนามสกุล .jpg หรือ .png ไว้

2. สมัครเว็บซื้อขายเหรียญดิจิทัล เพื่อการซื้อ-ขาย ต่างๆ ได้แก่

  • https://opensea.io
  • https://rarible.com
  • https://crypto.com/nft
  • https://superrare.co

3. โอนเงินเข้าเว็บซื้อขายเหรียญดิจิทัล เพื่อซื้อขายเหรียญดิจิตอล ETH เก็บไว้

4. สมัครสมาชิกเว็บ crypto wallet คือ Metamask ( สมัครที่ https://metamask.io ) เพื่อเป็นกระเป๋าเงินสำหรับ รับ-ส่งเงิน ที่ได้จากการขายงานศิลปะในรูปแบบ token จากเว็บไซต์ NFT ART

5. โอนเหรียญดิจิทัล ETH เข้ากระเป๋าเงิน Metamask เพื่อเตรียมไว้ใช้จ่ายค่าแปลงไฟส์ภาพเป็น NFT เรียกว่าค่า “Gas Fee” ซึ่งก็คือ ค่าธรรมเนียมสำหรับการนำข้อมูลไปลงไว้ในแต่ละระบบ Block chain

6. เลือกเว็บไซต์ที่ต้องการนำผลงานศิลปะวางขายในรูปแบบ NFT

และนีก็คือข้อมูลที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในครับ เห็นมั้ยหล่ะครับว่า ศิลปินขาวไทยก็เก่งไม่แพ้ชาติอื่นๆ บนโลกเลยหล่ะครับ

Continue Reading

Art

5 ภาพวาดที่มีราคาแพงที่สุดในโลก

Published

on

5 ภาพวาดที่มีราคาแพงที่สุดในโลก

บนโลกเรานั้น งานศิลป์ถือเป็นการปลดปล่อยหลากอารมณ์ซึ่งยากที่ทุกๆ คนจะเข้าใจซึ่งกันและกันหรือคิดเห็นไปในทางเดียวกันเกือบทั้งหมด ดั่งคำกล่าวที่ว่า “ใจคนเรานั้น…ยากแท้ หยั่งถึง” เช่นเดียวกันการความชื่นชอบในการงาอนศิลปะต่างๆ ซึ่งต่างคนก็ต่างให้ค่าของมันที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจึงอยากมาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับ “5 ภาพวาดที่มีราคาแพงที่สุดในโลก” ซึ่งอาจทำให้ท่านเกิดคำถามในใจว่าทำไมภาพดังกล่าวถึงได้มีราคาสูงขนาดนี้กันครับ

The Card Players โดย Paul Cézanne

มูลค่ากว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ

ภาพวาด The Card Players โดย Paul Cézanne ศิลปินแนว Impressionist เป็นภาพของชายชาวฝั่งเศสสองคนกำลังหมกหมุ่นกับเล่นการ์ดไพ่ โดยภาพดังกล่าวเป็นเทคนิคการใช้สีน้ำมันบนผืนผ้าใบซึ่งถูกวาดในช่วงต้นทศวรรษที่ 1890 ช่วงสุดท้ายของ Paul Cézanne  โดยภาพดังกล่าวถูกขายโดย George Embiricos ให้กับรัฐกาตาร์ในราคากว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8,252  ล้านบาท ซึ่งถือเป็นภาพที่มีมูลค่าสูงที่สุดที่มีการซื้อขายระหว่างเอกชนกับรัฐบาล

Interchange โดย Willem de Kooning

มูลค่ากว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ

ภาพวาด Interchange โดย Willem de Kooning เป็นภาพวาดแนว Abstract ที่แสดงถึงความจริงอันน่ารังเกียจของสังคมสมัยใหม่ โดยในปี 2558 มูลนิธิ David Geffen ได้นำภาพดังกล่าวออกขายให้กับ Kenneth C. Griffin ในราคา 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9,900  ล้านบาท โดยถือเป็นภาพวาดแนว Abstract ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลกอีกด้วย

Portrait de l’Artiste sans Barbe by Vincent van Gogh

มูลค่ากว่า 71 ล้านเหรียญสหรัฐ

Portrait de l’Artiste sans Barbe ภาพนี้เป็นผลงานของ Vincent van Gogh วาดขึ้นในปี 1889 Van Gogh เป็นจิตรกรชาวดัทช์ (ชาวเนเธอร์แลนด์) ที่ชอบวาดภาพเหมือนตัวเองจากเงาสะท้อนกระจก ซึ่งหนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงก็คือ “ ภาพเหมือนที่ไม่มีเครา “ วาดกลับด้านจากกระจกเงา

Dora Maar au Chat by Pablo Picasso

มูลค่ากว่า 95 ล้านเหรียญสหรัฐ

Dora Maar au Chat ภาพนี้เป็นผลงานของ Pablo Picasso วาดขึ้นในปี 1941 ภาพในรูปเป็นภรรยาของ Picasso เธอชื่อว่า Dora Maar เป็นภาพที่เธอกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้กับแมวตัวน้อยที่เกาะอยู่บนไหล่ของเธอ

Portrait of Dr. Gachet by Vincent van Gogh

มูลค่ากว่า 117 ล้านเหรียญสหรัฐ

Portrait of Dr. Gachet ภาพนี้เป็นผลงานของ Vincent van Gogh วาดขึ้นในปี 1890 ภาพของ Dr.Gachet ที่ Van Gogh วาดไว้ตอนที่เขารักษาตัวอยู่ที่สถานพักฟื้น ภาพนี้จะมีรูปเหมือนอยู่ 2 รูปด้วยแต่จะลงสีต่างกันนิดหน่อย

4 เหตุผลที่บอกว่าทำไมราคารูปภาพถึงแพงขึ้นเรื่อยๆ

  • มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น แม้เทคโนโลยีในปัจจุบันจะสามารถผลิตออกมาได้ใกล้เคียงมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีทางที่จะเหมือนกับผลงานต้นฉบับได้ 100%
  • คุณค่าที่มองไม่เห็น ผลงานทุกชิ้นนั้นถูกรังสรรค์ขึ้นจากประสบการณ์ ความสามารถ แนวคิด แรงบันดาลใจ ไปจนถึงระยะเวลาที่ศิลปินต้องสูญเสียไปในการสร้างสรรค์ผลงาน ดังนั้นการซื้อภาพวาดหนึ่งชิ้นไม่ใช่แค่การซื้อเฉพาะตัวผลงานเท่านั้น แต่เป็นการซื้อจิตวิญญาณและปัจจัยอื่นๆที่ศิลปินได้ถ่ายทอดลงไปในผลงาน
  • มูลค่าของภาพวาดที่เติบโตไปพร้อมศิลปิน เช่น วันนี้เพื่อนๆตัดสินใจซื้อภาพที่ Hole of Art จากศิลปินที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ในอนาคตศิลปินท่านนี้อาจกลายเป็นศิลปินชื่อดัง ที่เพื่อนๆจะไม่มีโอกาสได้ซื้อผลงานของเขา ในราคาเดียวกันกับในวันนี้อย่างแน่นอน
  • คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ภาพวาดถูกใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆมาอย่างยาวนาน ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไปผลงานบางชิ้นอาจถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาตร์ได้ จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ภาพวาดมีมูลค่าสูงขึ้น

ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อยกันนะครับ

Continue Reading

Trending